Last updated: 14 มี.ค. 2566 | 1014 จำนวนผู้เข้าชม |
บทความโดย: อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา
ฝุ่นละออง PM2.5 สามารถเข้าลึกถึงระบบทางเดินหายใจและปอด
ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง แสบจมูก ไอ จาม มีเสมหะ หอบหืด
หัวใจวายเฉียบพลัน หรือหลอดเลือดสมองตีบได้
แต่ที่อันตรายที่สุดอาจถึงขั้นเป็น “มะเร็งปอด”
น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน
ประสาอะไรกับที่ต้องหายใจกันตลอด 24 ชม.
ซึ่งก็ต้องหายใจเอาฝุ่นร้ายกันเข้าไป 24 ชม.เช่นกัน
แถมหนีไปไหนก็ไม่พ้นทั้งอยู่ในที่ปิดหรือที่เปิด
แค่มากหรือน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
ถ้าจำคำแนะนำของอาจารย์ได้ตอนช่วงต้นของห่าตำปอด
อาจารย์แนะให้สุมยากันทุกวัน ขับของเสียจากระบบทางเดินหายใจ
แม้ห่าจะจางลง แต่PM2.5 มันยังลอยอ้อยอิ่งเป็นปกติอยู่
ฉะนั้นจึงขอแนะให้กลับไปสุมยาทุกวัน จะเช้าจะเย็นไม่ว่ากัน
ผลดีคือช่วยชำระล้างความสกปรกในระบบทางเดินหายใจ
ผ่านทางของเหลวที่จะออกมาตอนสุมยา ทั้งน้ำตา และน้ำมูก
ยิ่งคนเป็นภูมิแพ้ที่มีอัตราเสี่ยงมากกว่าคนอื่นๆยิ่งจำต้องทำ
เพราะจะอยู่ในเมืองจะอยู่นอกเมือง เราหลีกเลี่ยงฝุ่นนี้ไม่มีพ้น
หัตถการสุมยาในการแพทย์แผนไทยพอบรรเทาได้บ้าง
ด้วยช่วยชำระล้างความสกปรกในระบบทางเดินหายใจ
ทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น สมบูรณ์ขึ้น สะอาดขึ้น
ตัวยา 4 ใบ
- ใบโหระพา ใบกระเพรา ใบสะระแหน่ ใบแมงลัก
ตัวยา 3 เหง้า
- ตะไคร้ ขิง ข่า
นำต้มสูดดมลึกๆให้ไอระเหยของตัวยาเข้าระบบทางเดินหายใจ
ให้ทำช่วงเช้าบ้าง ช่วงเย็นบ้าง น้ำหู น้ำตา น้ำมูก จะไหลหลั่ง
ใส่แมสจะดีขนาดไหนก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งแค่นั้น
ฉะนั้นควรเพิ่มการสุมยาเข้าไปด้วยในตารางชีวิตประจำวัน
ทำเสียแต่วันนี้ จักสบายปอดให้สบายกาย แลสบายใจ